เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๒๓ ก.ค. ๒๕๕๘

 

เทศน์เช้า วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

อ้าว ตั้งใจฟังธรรมะเนาะ เราฟังธรรมๆ ฟังธรรมเพื่อความสงบของใจ ใจมันสงบใจมันกินธรรมะไง ถ้าใจมีธรรมะนะใจสงบระงับ จิตหนึ่ง จิตหนึ่ง จิตหนึ่งเป็นสมาธิ ว่างๆ ว่างๆ จิตสอง จิตสองเพราะอะไร ตัวว่างๆ อารมณ์ความรู้สึก จิตหนึ่ง ถ้าจิตหนึ่งมันจะว่างได้ มันจะเป็นสมาธิได้มันต้องมีอำนาจวาสนา

คนมีอำนาจวาสนานะ ดูสิ ฤๅษีชีไพรในสมัยพุทธกาลเขาพยายามปฏิบัติของเขา เขาได้ฌานสมาบัติของเขา เขาต้องพยายามปฏิบัติของเขาด้วยความเข้มข้น แต่เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา พอใช้ปัญญาขึ้นไปมันปัญญาธรรมะหรือปัญญากิเลสไม่รู้ ปัญญาธรรมะคือค้นหาความผิดของตัว ถ้าปัญญากิเลสมันจะจับผิดคนอื่น

ถ้าเป็นธรรมะนะ ผู้ดีจะเดินตรอก ขี้ครอกจะเดินถนน ผู้ดีเขาจะสงบระงับของเขา ผู้ดีเขาจะเดินตรอกนะ เขาจะระวังตัวของเขา ไอ้ขี้ครอกมันกร่างบนถนน มันกร่างไปทั่ว นั่นไอ้พวกขี้ครอก เพราะขี้ครอกมันจะระรานเขาไง ระรานเขา มันจะอยากใหญ่อยากโต อยากจะนั่งอยู่บนหัวคนอื่นไง คนอื่นเขาสงบระงับของเขาเขาเป็นผู้ดี ผู้ดีเขาก็สงบระงับของเขา นั่นล่ะผู้ดี ผู้ดีเพราะอะไร ผู้ดีเพราะสัจธรรมไง ผู้ดีเพราะจับผิดตนเองไง ผู้ดีจะเขาค้นหาความผิดของตัว มันจะค้นหากิเลสตัณหาความทะยานอยากของเราไง

เวลาสุข เวลาทุกข์เราสุขเราทุกข์นะ เวลาเกิดเราก็มาเกิดนะเกิดจากพ่อจากแม่ พ่อแม่ลูกเกิดมาก็มีความรักผูกพันกับลูกมากเป็นสายบุญสายกรรม เวลาเกิดมาแล้ว เกิดจากพ่อจากแม่มา พ่อแม่ก็มีทุกข์ของพ่อแม่ ไอ้ลูกก็มีทุกข์ของลูก เวลาทำคุณงามความดีก็เป็นหัวใจของดวงนั้น เวลาลูกไปทำผิดที่ไหน เวลาเขาจะเอ็ดเขาจะว่าเขาบอกไอ้พ่อแม่ไม่สั่งสอน ลูกไปทำชั่วที่ไหนบอกไอ้พวกนี้ไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน แล้วพ่อแม่เขาสั่งสอนไหม เขาสั่งสอน มันเป็นเพราะพฤติกรรมของเด็กมันไปทำใช่ไหม แต่มันก็สายบุญสายกรรม มันชาติตระกูลนะ เวลาเขาจะว่าเด็กนั้นเขาว่าถึงพ่อแม่ของเด็กนั้น

นี่ก็เหมือนกัน ถ้าหัวใจของเรา เราเกิดมาเป็นชาวพุทธ เกิดมาเป็นชาวพุทธ ชาวพุทธนะเกิดมาพบพุทธศาสนา พุทธศาสนาเป็นธรรมะของใคร เป็นธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราศึกษาธรรมๆ บริษัท ๔ มารเอย เมื่อใดภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาของเรายังไม่เข้มแข็งสามารถกล่าวแก้การโจมตีจากลัทธิต่างๆ ได้เราจะไม่ยอมนิพพาน ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา มารเอย เมื่อใดภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาของเราเข้มแข็ง สามารถกล่าวแก้คำจาบจ้วงของลัทธิต่างๆ ได้ อีก ๓ เดือนข้างหน้าเราจะนิพพาน

นี่ไงชาติตระกูลไง เวลาชาติตระกูล เราเป็นชาวพุทธ ศาสดาของเราๆ ศาสดาสอนอะไร ศาสดาสอนอะไร สอนให้เราทำ ไม่ได้สอนให้คนอื่นทำ คนอื่นเป็นเรื่องของคนอื่นเขา สอนเราๆ สอนเรานี่แหละ เพราะอะไร เพราะเรามีกิเลสใช่ไหม เรายังเวียนว่ายตายเกิดใช่ไหม เพราะเรามีกิเลสตัณหาความทะยานอยากในหัวใจของเรา เวลาสอนเรา เวลาสุขเวลาทุกข์มันสุขทุกข์ของเรา เวลาทางโลกเขาร่ำรวยเราก็อยากร่ำรวยกับเขา เวลาเขาร่ำรวย เขาร่ำรวยเพราะเขาทำมาหากินของเขา เขาถึงร่ำรวยของเขา ไอ้เราไม่ทำมาหากินเราไม่ร่ำรวยหรอก

เวลาพระบวชมาแล้วถ้าพระไม่ภาวนา ไม่มีศีล สมาธิ ปัญญาขึ้นมามันก็เป็นสมมุติสงฆ์ บวชมาสมบูรณ์ในความเป็นพระ ความเป็นพระในธรรมวินัย เพราะธรรมวินัยถ้ามันบวชมาไม่มีความเป็นพระขึ้นมา เวลาลงสังฆกรรมมันเป็นโมฆะ มันเป็นสังฆกรรมไปไม่ได้ ภิกษุถ้าเวลาทำอาบัติหนักห้ามทำสามีจิกรรม คือห้ามร่วม ห้ามร่วมอยู่ ร่วมกิน เขาแยกออกไปเลย

แยกออกไป เวลาภิกษุอยู่กรรมต้องแยกออกไป เพราะเขาไม่ใช่ปกตัตตะภิกษุ คือเขาไม่สมบูรณ์ในความเป็นพระ เขาต้องแยกออกไป แต่ถ้ามันสมบูรณ์ล่ะ สมบูรณ์ก็ร่วมสังฆกรรมได้ไง ทำสามีจิกรรม ฉันร่วมกัน กินร่วมกัน ถ้าฉันร่วมกัน กินด้วยกัน คนหนึ่งไม่สมบูรณ์ขึ้นมา ภิกษุตักข้าวเข้าปากแต่ละคำเป็นปาจิตตีย์ทุกคำกลืน ต้องเสมอกัน เวลาเสมอกันส่งต่อๆ กันไป เพราะมันรับต่อๆ กันไป เพราะเป็นภิกษุใช่ไหม ฆราวาสมารับปั๊บ มันขาดประเคนใช่ไหม เพราะฆราวาส ถ้าสามเณรก็ไม่ได้

ฉะนั้น บวชเป็นพระ บวชเป็นพระไหม เป็น ถ้าไม่เป็นพระขึ้นมามันจะลงสังฆกรรมไม่ได้ มันจะขับเคลื่อนสามีจิกรรมของพระไปไม่ได้ แต่ถ้ามันเป็นพระแล้ว บวชเป็นพระแล้ว แล้วงานของพระคืออะไร บวชเป็นพระแล้วจบใช่ไหม บวชเป็นพระก็โกนหัวไง ไอ้ต๊อกมันบวชในหนังหลวงตา ไอ้ต๊อกมันได้เงินมหาศาลเลย เวลานักแสดงมันโกนหัวบวชในหนังนั่นน่ะ แต่นี่บวชจริงๆ แต่จริงตามสมมุติ มันยังไม่เป็นจริงในหัวใจ ถ้าเป็นจริงในหัวใจ พระมีหน้าที่อะไร พระบิณฑบาตฉันข้าว ทำภัตกิจ

กิจกรรม การฉัน การอยู่เป็นกิจกรรม มันเกี่ยวกับการงาน การงานเราทำงานอะไรก็เป็นงานใช่ไหม การอยู่ การกินก็เป็นงานอันหนึ่ง เราทำงานของเราเสร็จแล้ว ทำงานเพื่อธาตุ เพื่อขันธ์ ภัตกิจเข้าไปบำรุงธาตุขันธ์ เสร็จแล้วงานของพระนั่นน่ะทางจงกรม นั่งสมาธิภาวนาในที่เรือนว่าง งานของพระ งานของพระมันต้องมีศีล มีสมาธิ มีปัญญาขึ้นมาไง

ถ้ามันมีศีล มีสมาธิ มีปัญญาขึ้นมา ดูพระที่เขาปฏิบัติ ในสมัยพุทธกาลนะพวกฆราวาสเขาไปวัด ไปถึงไม่มีพระเลย ไม่มีพระเลย ทีนี้ไปเจอโยม โยมก็บอกว่าถ้าอยากเจอพระให้เคาะระฆัง พอเคาะระฆังพระต่างคนก็ต่างเดินมานะ โอ้โฮ เขาเห็นเขาตกใจ พระพวกนี้หน้าบึ้ง ไม่พูดไม่คุยกัน สงสัยพระวัดนี้ไม่ถูกกันทั้งวัดเลย ไปฟ้ององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธว่านั่นล่ะลูกศิษย์ตถาคต องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนอย่างนั้น

งานของพระ งานของพระให้มีสติ เขาไม่คุยกับใคร เขาไม่คลุกคลีกับใคร การคลุกคลีๆ เรื่องนี้ เวลาเราจะไปธุดงค์ไปคนเดียวมันก็กลัว มันก็ว้าเหว่ มันก็เหงา เวลาอยู่ด้วยกันอู้ฮู สำมะเรเทเมา อู๋ย ธรรมเมา มันโม้กันปากเปียกปากแฉะน้ำลายแตกฟองเลย อู๋ย ธรรมะนิพพานๆ นิพพานอะไรของมันก็ไม่รู้ แล้วออกป่าก็ออกป่าไม่ได้ ปฏิบัติก็ปฏิบัติไม่เป็น นิพพานๆ อยู่อย่างนั้นแหละ อบอุ่นไงอยู่ด้วยกัน ให้วิเวก ปลีกวิเวก ปลีกออกไป ปลีกออกไป พอไป เช้าขึ้นมามันอยู่ที่บารมี เราจะมีสิ่งใดตกบาตร

นี่ไงภัตกิจมันมีอะไรทำ ถ้าไม่มีภัตกิจก็ลมไง พระธุดงค์เวลาออกธุดงค์นะ เวลาไปผิดเวลาเขามันจะไม่มีอะไรตกบาตรมาเลย มันมีแต่ลมมาก็ฉันลม เพราะอะไร เพราะว่าไอ้เรื่องการอยู่ การกิน กินมาตั้งแต่วันเกิดจนตาย กินทุกวัน ฉันอาหารก็ฉันทุกวัน ไม่ฉันสักวันสองวันมันจะเป็นอะไร มันจะตายไหม มันไม่ตายหรอก ภิกษุเราเวลาธุดงค์ไป ๓ วัน ๔ วันอดเป็นเรื่องธรรมดา เวลาเดินทางเขาอดอาหารเป็นเรื่องปกติ

ภัตกิจทำเพื่อธาตุขันธ์ นี้จิตใจมันสูงส่งแล้วธาตุขันธ์เอ็งหยุดสักวันหนึ่งเนาะ เอ็งไม่ได้กินสักวันสองวันไม่เป็นอะไรหรอกเนาะ ไปเราไปด้วยกัน เพราะอะไร เพราะหัวใจมันไปเองไม่ได้ หัวใจมันคิดได้ ส่งออกได้ แต่มันไปเองไม่ได้ มันต้องอาศัยร่างกายนี้ไป ไปเราอดวันสองวันเนาะ แล้วเราธุดงค์ไปข้างหน้าเนาะ เราไปหาอยู่หากินเอาข้างหน้านู่น ไปข้างหน้าเดี๋ยวโอ้โฮไปเจอบ้านเมืองเขาใส่ล้นบาตรเลย อดมาสองวันเนาะ วันนี้ได้ภัตตาหารมานะเราทำภัตกิจของเรา

นี่ไงถ้ามันมีสติมีปัญญาแล้ว ไปอย่างนี้มันจะเห็นเลย แล้วมันไม่ติด ถ้าภิกษุออกธุดงค์นะมีพฤติกรรมอย่างนี้ มันจะไม่ติด ไม่ติดญาติติดโยม ไม่ติดอะไรเลย พอไม่ติดสิ่งใดเลยมันจะภาวนาได้ง่ายแล้ว ถ้าภาวนาได้ง่ายเพราะอะไร เพราะเราไม่มีภาระรุงรังใดๆ ทั้งสิ้น นิวรณธรรม เกรงใจคนนู้น เกรงใจคนนี้ ลูบหน้าปะจมูก ไอ้คนนู้นมาก่อน ไอ้คนนี้มาหลัง โอ๋ย คนนั้นเป็นคนดี ไอ้คนนี้เป็นคนเลว เหมือนกัน เหมือนกันเพราะอะไร เพราะเขามาจังหัน เขามาถวายทานของเขา ทานของเขาข้าวก็คือข้าวเหมือนกัน อาหารก็คืออาหารเหมือนกัน แต่จริตนิสัยของคนมันแตกต่างกัน

สิ่งที่เหมือนกันๆ เหมือนกันโดย เราเป็นญาติกันโดยธรรมไง เรามีปากมีท้องเหมือนกันไง แต่ความคิดเราไม่เหมือนกันสักคนหนึ่ง คนเหมือนคนแต่ไม่เหมือนกันสักคน ลายนิ้วมือของคนปั๊มไปแล้วไม่เหมือนกันเลย ความคิดของคนเหมือนกันไม่มี ไม่มี ฉะนั้น เวลาภาวนาไปของใครของมัน ถ้าทำขึ้นมาแล้วทำให้มันดีงามขึ้นมา ถ้าดีงามขึ้นมา ผู้ดีจะเดินตรอก ขี้ครอกจะเดินถนน วัดจะสงบระงับ วัดจะเรียบง่าย เรียบง่ายติดดินนะ วัดไหนฟู่ฟ่า วัดไหนที่มันมีกิจกรรมต่างๆ อันนั้นมันเป็นโรงมหรสพ ศีล ๘ ที่ไหนเขามีฟ้อนรำ ที่ไหนมีเสียงเพลงเราจะไม่ไปที่นั่น

อบายมุขก็เข้ากับอบายภูมิ สิ่งที่เป็นอบายมุข สิ่งที่เป็นอบายมุขคือการพนันขันต่อทำให้คนติด นั้นมันเป็นทางออกของกิเลส คนเวลาติดการพนัน คนเราโจรปล้นเท่าไรมันก็ไม่เหมือนคนเล่นการพนัน มันขายหมดเนื้อหมดตัวทั้งนั้นแหละ อบายมุขก็ไปสู่อบายภูมิ ฉะนั้น ถ้าเรามีศีลมีธรรมเราจะเรียบง่าย เรียบง่ายไม่มีสิ่งใดเป็นภาระรุงรัง ต่างคนต่างทำภัตกิจ โยมเดี๋ยวทานอาหารเสร็จแล้วต่างคนต่างกลับเข้าที่สู่การภาวนา มีกิจกรรมสิ่งใด เวลาทำเขาทำข้อวัตรของเขาเป็นครั้งเป็นคราว ภิกษุออกมาฉันน้ำปานะ เสร็จแล้วบ่ายโมงก็เริ่มทำข้อวัตร

ถ้าทำข้อวัตร วัจกุฎีวัตร วัตรในห้องน้ำ วัดในศาลาโรงธรรม วัดต่างๆ โยมมาวัดโยมจะเปิดโอ่งน้ำ จะน้ำเต็มทุกวัน น้ำเต็มโอ่งตลอด น้ำมันมาเองไม่ได้ ภิกษุเป็นคนทำ เข้ามาถึงห้องน้ำ ห้องน้ำสะอาดสะอ้าน ขนาดโยมมาบอกว่า เฮ้ย ห้องน้ำสะอาด ลองดมดูสิ มีกลิ่นหรือเปล่า มันจะดมกันเลยนะ แต่เวลาไปวัดร้าง ไม่มีผู้ที่ทำข้อวัตรมันไม่ไปดมบ้างล่ะ เวลาไอ้มูตรคูถเต็มฐานส้วมมันไม่ไปดมล่ะ

เวลาเราขัดเราทำของเราเรียบร้อยเพราะอะไร เพราะเราเคารพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากัน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางธรรมและวินัยนี้ไว้ให้ฝึกหัด เราทำเพื่อเราฝึกหัดใจของเราไง เราจะไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง เราอยากจะเป็นผู้ดีไง เราอยากให้จิตใจเราสงบระงับไง เราทำสิ่งนี้เพื่อบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฝึกหัดจนเป็นนิสัย พอฝึกหัดจนเป็นนิสัย ทำสิ่งใดทำด้วยความภูมิใจ ไม่ได้ทำด้วยคอตกนะ

เวลาเราบวชมาใหม่ๆ นะ เราบวชพระมา จะบวชมาปฏิบัตินะ ไม่ได้บวชมาเป็นเทศกิจ จะมากวาดลานวัด จะมาทำห้องส้วม นั่นมันเรื่องของเทศกิจ โลกเขามองกันอย่างนั้น เวลาโลกเขามองอย่างนั้น แต่เรามองด้วยความภูมิใจ วัจกุฎีวัตร วัตรในศาลาโรงธรรม วัตร ๑๓ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางไว้ให้พระฝึกหัด เอ็งทำตรงนี้เอ็งจะเป็นพระที่ดี เอ็งทำตรงนี้เอ็งจะมีสติปัญญา เช้าขึ้นมาทำภัตกิจ พอบ่ายขึ้นมาก็ไปห้องส้วมไปถ่ายออกแล้วไม่มอง เวลาเข้ามาในบาตร อู้ฮู มีแต่ของดีๆ ทั้งนั้นเลย เวลาถ่ายออกไปไม่เห็นอะไรเลย เวลาส้วมเต็ม เวลาเอาไปใส่ต้นไม้ ต้นไม้มันหอมหวานเลย

ถ้ามันมีสติมีปัญญาท่านทำไว้ ทำไมพระต้องไปเที่ยวป่าช้า คนตายไปดูมันทำไม คนตายเขาตายเกลื่อนเลย แล้วเอ็งจะเป็นคนต่อไป เวลาเราบอกเราจะเป็นคนต่อไป เราจะตายต่อไปมันสะดุดเลยนะ ไอ้ที่มันฟุ้งมันซ่าน ไอ้คนนั้นก็ว่าเรา ไอ้คนนี้ก็รังแกเรา เราจะอยู่ให้เขาเหยียบย่ำต่อไปไง พอบอกจะตาย ด่าไปเถอะ ด่าไปก็ได้เพราะกูตายแล้วกูไม่อยู่ พอไปเที่ยวป่าช้า เราไปดูเขา ดูมรณานุสติแล้วเราก็ตั้งสติของเรา ถ้าพูดถึงความตาย ความตายทำให้กิเลสนี้ไม่เห่อเหิม กิเลสไม่เห่อเหิมนะมันจะไม่ฟุ้งซ่านของมัน เราต้องตายแน่นอน แต่เราพร้อมหรือยัง

ถ้าเราพร้อม ที่โยมมาทำบุญๆ อยู่นี่ก็เพราะเหตุนี้แหละ มาทำบุญกุศลของเรา ทำบุญกุศลของเราให้จิตมันไม่ตระหนี่ถี่เหนียว ถ้าไม่ตระหนี่ถี่เหนียวเพื่ออะไร ถ้ามันตระหนี่ถี่เหนียว บ้านของเรา เราห่วงคนจะขโมย เราปิดประตูหน้าต่างหมดเลย ทึบหมดเลย เพราะกันคนขโมย แต่คนที่เขารักษาบ้านของเขา เขาเปิดประตูหน้าต่างของเขา แสงแดดนะอากาศมันถ่ายเท โอ๋ย บ้านปลอดโปร่ง

จิตใจที่มันตระหนี่ถี่เหนียวมันยึดของมันหมดแหละ มันยึดหัวใจมันไว้ มันไม่เปิดรับฟังสิ่งใดเลย ในโลกนี้ไม่มีใครดีเลย ฉันดีอยู่คนเดียว ฉันสุดยอดอยู่คนเดียว แต่พอมันเสียสละความตระหนี่ถี่เหนียวมันเปิดบ้านของมันไง มันเปิดหัวใจของมันนะ เออ เขาก็เป็นคนเหมือนเราเนาะ เออ เขาก็เป็นคนดีเนาะ เออ เขาก็มีน้ำใจเหมือนกันเนาะ มันเปิดรับ ที่มันเสียสละ สละทานอยู่นี่ เราเปิดรับ เปิดหัวใจ เปิดบ้านของเรา เปิดหน้าต่างของเรา เปิดประตูของเรา เปิดหมดเลยให้อากาศมันถ่ายเท บ้านก็ปลอดโปร่ง บ้านก็มีความสุขใช่ไหม

เราตระหนี่ถี่เหนียวปิดเลย บ้านกูกลัวของหาย ประตูก็ปิด หน้าต่างก็ปิด ทำประตูอยู่ กำลังจะเอากุญแจมาติด ปิดหมดเลยไม่ให้ใครเข้า ตระหนี่ถี่เหนียวไม่ให้ใครเข้าเลย ตระหนี่ถี่เหนียว ถ้ามีศีล มีสติมันมีรั้ว เขาเรียกมีทำนบ มีรั้วกั้น โลกมันท่วมท้น กิเลสตัณหาความทะยานอยากมันท่วมท้นเข้าไปวัดไปวา มันไปทำทุกๆ อย่างเสียหายหมดเลย แต่ถ้าคนมีสติมีปัญญา เราทำกำแพง ทำประตูไว้ กั้นไอ้ความท่วมท้นจากโลก สิ่งที่โลกมันท่วมท้นเข้ามาในวัดในวา

ภิกษุต้องการความสงบความสงัด ภิกษุเขาอยู่กันด้วยความเคยชินไง เขาเคยชิน เราเคยอยู่ในที่สงบสงัด พอมีเสียงสิ่งใดเกิดขึ้นมันจะแทงหูทันทีเลย คนเรานะมองแต่ต้นไม้ ภูเขานะ ไปเห็นผู้หญิง ผู้ชายมันก็แทงลูกตาทันทีเลย เราอยู่ในที่สงบสงัด เราอยู่ในที่ความคุ้นเคยของเรา รักษาหัวใจของเราแล้วฝึกฝน ครูบาอาจารย์ของเราท่านจะปกป้องอย่างนี้ หลวงตาท่านบอกว่าหัวหน้าเหมือนหัวรถจักร หัวรถจักรมันจะวิ่งนำหน้าไป มีสิ่งใดมันชนก่อน

ครูบาอาจารย์ที่ดีท่านจะปกป้องนักปฏิบัติ แล้วไอ้นักปฏิบัติมันก็อยาก อยากจะเป็นหัวรถจักร อยากจะไปเผชิญกับโลก แต่มันเผชิญกับโลกเดี๋ยวก็ตาย เพราะ เพราะโมฆะบุรุษตายเพราะลาภ ตายเพราะความยกย่องสรรเสริญ ตายเพราะความชื่นชมของสังคม ตายหมด ตายเพราะอะไร ตายเพราะจิตใจมันไม่มั่นคง แต่ถ้าครูบาอาจารย์ของเราท่านรักษาหัวใจของท่านแล้ว ท่านเห็นสิ่งนั้นมันเป็นเรื่องโลก เห็นความท่วมท้นของโลก แล้วน่าสงสาร ภัยแล้งมันก็แล้งจนทุกข์จะเป็นจะตาย น้ำท่วม น้ำท่วมมันก็ทำลายบ้านเรือนเสียหายไปหมด มันไม่มีสิ่งใดพอดีเลย

แต่ถ้าคนมีสติปัญญา สิ่งนี้มันเป็นสภาวะแวดล้อมของโลก เป็นสภาวะแวดล้อมของโลก เราต้องมีสติมีปัญญา เราต้องมีสติปัญญาเตรียมพร้อมไว้ เวลาสิ่งใดเกิดขึ้นมันก็นี่ไงเราเตรียมพร้อมไว้แล้วมันก็เกิดขึ้นแล้ว เราเกิดขึ้นแล้วเราจะบริหารจัดการมันอย่างใด รักษาหัวใจนี้ไว้ รักษาชีวิตนี้ไว้ ชีวิตนี้มันจะแสวงหาข้างหน้าได้อีก ถ้าชีวิตนี้สิ้นสุดไปเราจะจบสิ้นกันที่นี่ไง รักษาชีวิตไว้ น้ำจะท่วม ภัยจะแล้งรักษาชีวิตนี้ไว้เพื่อเหตุการณ์ข้างหน้า เพื่อความแก้ไขของเรา

เราดูแลหัวใจของเรานะ สิ่งใดจะเสียหายไปให้มันเสียหายไป อย่าให้ใจเสียหาย แล้วถ้าใจเสียหาย เพราะไม่ได้ประพฤติปฏิบัติ ไม่มีศีลมีธรรม ปล่อยมันร้ายนะ หัวใจนี้ถ้ามันดีมันดีอย่างมนุสสเทโว มันยิ่งกว่าเทวดา เวลามันร้าย มนุสสเดรัจฉาโน จิตใจมันร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน มันทำลายไปหมด ทำลายแม้แต่ตัวมันเอง ทำลายแม้แต่หัวใจนะ หัวใจนี้ถ้ามีศีล มีสมาธิ มีปัญญามันจะมีมรรคมีผลให้หัวใจนี้ชุ่มชื่น มันทำลายตัวมันเองบอกไม่จำเป็น ไม่สำคัญ

ฟืน ไฟนี่แหละดี ความโลภ ความโกรธ ความหลงนั้นประเสริฐ สิ่งใดที่มันเอามาแผดเผามัน มันก็เอามาแผดเผามัน ดูสิ มันทำลายตัวมันเองโดยมันไม่รู้ตัวไง มันเอาฟืนเอาไฟเผามัน มันยังไม่รู้ว่าฟืนว่าไฟ ครูบาอาจารย์บอกนั่นฟืนนั่นไฟ มันไฟ ดับไฟซะๆ ด้วยสติ ดับไฟซะ ดับไฟซะด้วยศีล มันดับอย่างไร มันดับแล้วมันทุกข์ ถ้ามันเอาไฟมาเผาตัวแล้วมันสุข มันดี มันชื่นชม

ดูสิ เวลาจิตใจมันเลวร้าย มันเลวร้ายทำลายใจมันเอง มันยังไม่รู้ตัวว่ามันทำลายใจมันเอง แต่ครูบาอาจารย์ท่านมีศีลมีธรรม ท่านบอกให้เราละ ให้เรามีสติ ให้เรามีสติให้มีปัญญา มันทุกข์มันยาก มันลำบากไปหมดเลย แล้วมันจะเอาอะไรง่ายล่ะ เวลาโลกเขาเขาปากกัดตีนถีบ เขาสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจนฐานะเขามั่นคง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปแสวงหาธรรมกับเจ้าลัทธิต่างๆ ๖ ปี เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอดอาหารสลบไปถึง ๓ หน เวลากั้นลมหายใจสลบไปถึง ๓ หน อดอาหารจนขนร่วง ทำมาทุกๆ อย่าง มันสุขมาจากไหน

ศาสดาของเราทำเป็นตัวอย่าง คนเราต้องทุกข์ ต้องยาก ต้องขยันหมั่นเพียรมันถึงจะได้สิ่งนั้นมา คนเราจะล่วงพ้นทุกข์ด้วยความเพียร ความเพียร ความวิริยะ ความอุตสาหะ ความเพียรทางโลกก็เพื่อประโยชน์ปัจจัยเครื่องอาศัย ความเพียรทางธรรม พระเดินไปเดินมา นั่งสมาธิ ไม่ทำอะไรเลย เอาใจของตนไว้ในอำนาจของตน งานนี้สาหัสสากรรจ์มาก ถ้าไม่สาหัสสากรรจ์ขนาดต้องอดนอนผ่อนอาหาร ต้องเผชิญกับความจริงตลอด

ถ้าธาตุขันธ์มันทับจิต มันกินอิ่มนอนอุ่น มันนั่งสัปหงกโงกง่วงทั้งนั้นแหละ กินอิ่มแล้วก็ไปนอนเป็นงูเลยล่ะ เป็นไอ้เข้ไปนอนอ้าปาก ผึ่งแดดอยู่นั่นล่ะ โอ้โฮ กินอิ่มนอนอุ่น พระองค์นี้มีอำนาจวาสนา เช้าขึ้นมาอาหารเต็มไปหมดเลย มีคนมาศรัทธา อู้ฮู อาหารปรนเปรอไปเต็มที่ ฉันเสร็จแล้วก็ไปนอนอ้าปากอยู่ ผึ่งแดด แต่เวลาผู้ที่จะประพฤติปฏิบัติ มักน้อยสันโดษ

ฉันอาหารเบา อาหารเบาคือข้าวเปล่าๆ อาหารปานกลางก็ข้าวกับผัก ถ้าอาหารอย่างหยาบก็พวกเนื้อสัตว์ ถ้าอาหารอย่างหนักๆ กินไปแล้วมันจะเกิดพลังงาน มันจะสัปหงกโงกง่วง อาหารอย่างเบามันจะคล่องตัว อาหารอย่างกลางจะคล่องตัว อาหารอย่างเบาภาวนาสะดวก แล้วถ้าภาวนายังไม่ได้อดอาหารเลย ฉันแต่น้ำ ฉันแต่น้ำปานะ สู้กับมันๆ

งานของพระ งานของพระเวลาต่อสู้กับความรู้สึกนึกคิดของตัว แล้วเอาความรู้สึกนึกคิดของตัวไว้ในอำนาจของตัว แล้วยกขึ้นสู่วิปัสสนา ภาวนามยปัญญา ปัญญาเกิดจากการภาวนา ปัญญาเกิดจากจิตหนึ่ง จิตเป็นหนึ่ง จิตเป็นสมาธิ จิตว่างๆ ว่างๆ จิตเป็นสอง จิตเป็นสองคืออารมณ์ความว่างนั้นเป็นสอง มันต้องมีจิตมันถึงรู้คำว่าว่าง เวลาจิตเป็นหนึ่งแล้ว จิตตั้งมั่น เอกัคคตารมณ์ จิตตั้งมั่น จิตยกขึ้นสู่วิปัสสนา วิปัสสนาฝึกฝนของเราไง แล้วจะกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยหัวใจ

ไอ้ปัญญาโลกๆ อย่างนี้เขาเรียกว่าโลกียปัญญา ปัญญาของโลก ภาวนามยปัญญาคนยังไม่เกิด แล้วถ้าภาวนามยปัญญาเกิดขึ้นมาจากมนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์มหัศจรรย์ไหม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในบรรดาสัตว์สองเท้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐที่สุด ในนักปฏิบัติองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นไก่ตัวแรกที่เจาะฟองอวิชชาออกมา ในความประเสริฐ ประเสริฐสุด องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐที่สุด เวลาเผยแผ่ธรรมไป ยสะ ปัญจวัคคีย์เป็นพระอรหันต์ทั้งหมดเลย

เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนเรานี่แหละ เราก็ตั้งใจของเรา เราก็แสวงหาของเรา เราก็จะพยายามทำของเรา เพื่อประโยชน์กับเรา ถ้าทำประโยชน์กับเรา ผู้ดีจะเดินตรอก ขี้ครอกจะเดินถนน เราจะเดินตรอก เดินซอก เดินซอย เราจะเข้าไปที่ลับ เราจะเข้าไปโคนไม้ เราจะเข้าไปที่เรือนว่าง เราจะไม่ยุ่งกับใครเลย ไอ้ขี้ครอกมันเดินอยู่บนถนนนู่นน่ะ มันวางกล้าม มันว่ามันมีศักยภาพ มันวางกล้ามของมันไอ้พวกขี้ครอก ผู้ดีจะเดินตรอก รักษาหัวใจ ดูแลใจเราเพื่อประโยชน์กับเรา เพื่อหัวใจดวงนี้ให้ประเสริฐขึ้นมา แล้วเราจะเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลางหัวใจดวงนี้ เอวัง